พระผงไตรปิฎก วัดสัตตนารถปริวัตร เป็นพระเก่าอายุเกิน ๑๐๐ ปี ของ วัดสัตตนารถฯ กล่าวกันว่าสมเด็จพุฒาจารย์ (เขียว จนฺทสิริ) อดีตเจ้าอาวาสวัดราชาธิวาส เป็นผู้สร้างพระผงไตรปิฎก

และมอบให้กับพระพุทธวิริยากร(จิตร) อดีตเจ้าอาวาสวัดสัตตนารถปริวัตร เมื่อปี พ.ศ. ๒๔๕๑ เพื่อให้นำมาแจกจ่ายให้กับผู้ร่วมทำบุญบริจาคทรัพย์ในคราวสร้างอุโบสถ และเพื่อแจกจ่ายให้กับผู้ที่มาร่วมสร้างอุโบสถในคราวนั้น

ครั้นแล้วจึงนำพระที่เหลือไปบรรจุไว้ในเจดีย์ประธานที่วัดสัตตนารถฯ จนถึงเดือนตุลาคม พ.ศ. ๒๔๙๖ ปรากฏว่ามีเครื่องบินขนาดเล็กเกิดอุบัติเหตุตกลงมาบริเวณวัดสัตตนารถ และได้พุ่งชนเจดีย์ประธานจนเกิดความเสียหาย

ทำให้พระผงไตรปิฎกที่บรรจุไว้ในเจดีย์นั้นแตกกรุกระจายออกมา ด้วยพบว่าพิมพ์ทรงมีรูปแบบเดียวกันกับพระชุดแรกที่แจกในคราวสร้างอุโบสถ จึงทำให้รู้ว่าพระชุดนี้คือ พระผงไตรปิฎกของสมเด็จพระพุฒาจารย์ (เขียว จนฺทสิริ) อดีตเจ้าอาวาสวัดราชาธวาส นั่นเอง

ซึ่งสมเด็จพุฒาจารย์ (เขียว จนฺทสิริ) อดีตเจ้าอาวาสวัดราชาธิวาส นั้นท่านเป็น ๑ ใน ๑๓ พระโบราณาจารย์ ผู้สำเร็จวิชา “สรตะโสฬศ” ซึ่งเป็นวิชาชั้นสูงทางศาสนา ซึ่งได้แก่ภิกษุผู้สำเร็จญาณวิเศษ บรรลุโสฬสญาณ ๑ ปรีชามรรคผลญาณ ๑ ญาณทั้งสองประการนี้ ภิกษุผู้ใดสำเร็จ ก็สามารถจัดพยัญชนะ ๓๔ ตัว ให้เข้ากับเลขประจำวัน อันเป็นต้นกำเนิดของโสฬศพยัญชนะได้ และวันที่ประกอบด้วยเวลา ๒๔ ชั่วโมงนี้ ท่านแบ่งเป็น อดีต ปัจจุบัน อนาคต วันในอดีต มีตัวพยัญชนะกำกับ ๑๔ ตัว วันในอนาคตมีพยัญชนะกำกับ ๑๔ ตัว
ผู้ที่จะศึกษาให้สำเร็จญาณวิเศษดังกล่าวนี้ จะต้องเป็นผู้ที่ปราศจากโลภ โกรธ หลง ถ้าผู้ใดยังมีโลภ โกรธ หลง ผู้นั้นไม่สามารถเรียนวิชาโสฬศญาณให้สำเร็จได้ ตามประวัติที่ทราบมา ภิกษุผู้บรรลุคุณวิเศษโสฬสญาณ มีเพียง ๑๓ รูป คือ
๑. สมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระยาปวเรศวริยาลงกรณ์ วัดบวรนิเวศ
๒. ขรัวจาด สัพพัญญู วัดภาณุรังษี บางพลูใน
๓. ขรัวคลุมโปง วัดดีดวด หลังวัดอรุณราชวราราม
๔. ขรัวแก่นโคกขาม วัดในคลองบางซื่อ
๕. ขรัวเขียว วัดบางละมุดใต้ ตรงข้ามบางโพธิ์
๖. พระธรรมกิติสารมุนี วัดรังษีสุทธาวาศ
๗. อาจารย์เตา วัดสุนทรธรรมทาน
๘. พระจันโทปมคุณมุนี วัดมกุฎกษัตริย์
๙. พระอาจารย์เหม วัดเทพากร บางพลู
๑๐. สมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต) วัดระฆังโฆสิตาราม
๑๑. สมเด็จพระพุฒาจารย์ (เขียว) วัดราชาธิวาศ
๑๒. พระอาจารย์โพธิ วัดเทพนารี บางพลู
๑๓. ขรัวสา วัดสังเวชวิศยาราม

กราบขอบพระคุณข้อมูลจาก
1.เว็บไซต์ "สารานุกรมพระเครื่องลุ่มน้ำแม่กลอง" (https://www.pra-maeklong.com/)
2. เพจ "เล่าเรื่อง..วัดบวรฯ" (https://www.facebook.com/Bowonniwet/posts/625549047852803/)